fbpx
+66-99-345-1234 [email protected]

แนทเชอแรนเหมาะกับใคร ?

กลุ่มผู้ส่งออกผักและผลไม้ ปัจจุบันกลุ่มนี้ได้ยึดถือแนวทางการปฏิบัติโดยการขนส่งให้รวดเร็วที่สุดเพื่อลดอัตราการสูญเสียของผักและผลไม้ที่มีอายุการเก็บรักษาที่สั้น แต่ด้วยความต้องการอันมหาศาลของผู้ประกอบการที่ต้องการใช้บริการดังกล่าว จึงต้องลงทุนเป็นอย่างมากในระบบการขนส่ง หรือใช้บริการที่มีต้นทุนที่สูง ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้นมาก ด้วยแนทเชอแรนสามารถยืดอายุการเก็บรักษาผักและผลไม้ได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ช่วยให้ผลิตผลสดจากเดิมที่ต้องส่งทางเครื่องบินอย่าง มะม่วงน้ำดอกไม้ ได้มีการการปรับเพื่อส่งออกทางเรือไปยังหลากหลายประเทศโดยมีอัตราจากสูญเสียลดลงจากเดิม ร้อยละ 50 เหลือเพียง ร้อยละ 5 หรือต่ำกว่าเมื่อใช้ แนทเชอแรน

กลุ่มผักและผลไม้ตัดแต่ง ปัจจุบันกลุ่มนี้มีการใช้เคมีอาหารที่ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานอุตสหากรรมซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น กรดแอสคอร์บิก, กรดซิตริก, แคลเซียมแอสคอร์เบท, คาร์บอนไดออกไซด์, ไนโตรเจน, ไนตรัสออกไซด์ ซึ่งถือว่าเป้นขั้นมาตรฐานและมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ด้วยฟังก์ชันของสารเคมีแต่ละชนิดที่ช่วยแก้ไขได้เพียง 1 หรือ 2 ปัญหาเท่านั้น อาทิ การป้องกันการเกิดรอยสีน้ำตาล การเสริมความแข็งแรงของเนื้อผลไม้ ซึ่งไม่เพียงพอในการยืดอายุการเก็บรักษาในการขนส่งไปยังพื้นที่ห่างไกล ซึ่งแนทเชอแรนสามารถแก้ไขปัญหาได้ไม่ใช่แค่เพียงการชะลอการเกิดรอยสีน้ำตาล การเสริมความแข็งแรงของเนื้อผลไม้ แต่ยังช่วยชะลอการเกิดเชื้อจุลินทรีย์และชะลอการสุกงอมของผักและผลไม้ได้เช่นเดียวกัน

กลุ่มผลไม้อบแห้ง ปัจจุบันผู้ประกอบการผู้แปรรูปผักและผลไม้ในกลุ่มการอบแห้งในประสบปัญหาเกี่ยวกับการจำกัดการใช้สารเคมีในกลุ่ม ซัลไฟท์ ที่ทำหน้าที่ถนอมอาหารโดยการดึงน้ำออกจากอาหารให้มากที่สุดรวมถึงมีส่วนในการช่วยออกฤทธิ์ในด้านต่าง ๆ เช่น การลดการเกิดเชื้อ การลดการเกิดรอยสีน้ำตาล แต่นั่นส่งผลให้รสสัมผัสของเนื้อผลไม้มีความกระด้างและส่งผลทางอ้อมในรูปแบบของการสะสมการตกค้างสารเคมีในร่างกาย แนทเชอแรนเข้ามามีบทบาทในการช่วยลดปริมาณสารเคมี หรือทดแทนสารเคมี (Less Chemical or Zero Chemical) ที่นอกจากจะทำหน้าที่ได้คล้ายคลึงกับซัลไฟท์แล้ว ยังช่วยห้รสสัมผัสของผลไม้อบแห้งดีขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกัน

กลุ่มผู้ประกอบการโรงงานอาหารสกัดคุณค่าทางอาหารจากผลิตผลสด ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของแป้งในหัวมันสำปะหลังนอกจากการผลิตด้วยความเร็วสูง เพื่อช่วยให้ผลิตผลเกิดความสูญเสียน้อยที่สุด ซึ่งแนทเชอแรนมีบทบาทในการชะลอการเปลี่ยนแปลงของค่าสารอาหารภายในให้เปลี่ยนแปลงไปโดยการชะลอตัว และยังสามารถใช้เพื่อยืดอายุกิ่งกันพันธุ์อันเป็นปัจจัยหลักในการควบคุมคุณภาพของผลิตผลที่จะเก็บเกี่ยวในอนาคตซึ่งสามารถยืดอายุได้มากพึง 1-2 เท่าตัวจากอายุเดิม